กันแดดเดินป่า เลือกแบบไหนดี ทนแดดทนฝน พร้อมลุยสถานการณ์
- pocarethailand

- 1 วันที่ผ่านมา
- ยาว 2 นาที
กิจกรรมผจญภัยสุดฮิตติดเทรนด์สายลุยที่หลายคนอยากลองมากที่สุดก็คือเดินป่า ทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า ที่ท้าทายกำลังขาและกำลังใจหลายที่ ซึ่งการเดินป่าเป็นกิจกรรมนอกจากจะพาเราไปเจอกับความสนุกแล้ว ยังพาเราไปเผชิญหน้าสภาวะอากาศที่คาดเดาไม่ได้ในบางที ทั้งฝน อากาศร้อน ความชื้น เหงื่อ หรือจะเป็นวันที่เจอแดดแรง การเตรียมตัวเวลาเราต้องออกไปเดินป่าหรือขึ้นเขาจึงสำคัญ หลายคนมักเตรียมรองเท้าดี เป้กันน้ำ และเสื้อผ้าโปร่งสบาย ระบายอากาศได้ แต่สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืม เพราะอาจทำให้ทริปนี้เปลี่ยนจากโหมดสนุกเป็นทรมานจากผิวโดนแดดทำร้ายแทน ทำให้หลายคนกังวลเรื่องผิวเสีย และการทากันแดดธรรมดาอาจเอาไม่อยู่ เพราะฉะนั้นการมีกันแดดที่เหมาะกับการเดินป่าโดยเฉพาะจึงเป็นไอเท็มสำคัญที่ขาดไม่ได้ สำหรับปกป้องผิวกายและผิวหน้าได้ทั้งวัน ตลอดระยะทางตั้งแต่เริ่มต้นไปจุดหมายปลายทางอย่างไร้กังวล

ไอเท็มคู่ใจนักเดินป่า ที่ขาดไม่ได้เด็ดขาด
การเตรียมตัวก่อนเดินป่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเราต้องไปใช้ชีวิตนอกบ้าน บนเส้นทางที่ท้าทาย การมีอุปกรณ์ครบจะช่วยให้เราสะดวก และทริปนี้สนุกขึ้น นอกจากครีมกันแดดเดินป่าที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV แล้ว ยังมีไอเท็มจำเป็นที่ช่วยให้การเดินทางปลอดภัยและสบายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น หมวกและแว่นกันแดดเดินป่าเพื่อกันแดดแรงและลดแสงสะท้อนจากพื้น เสื้อที่เนื้อผ้าระบายอากาศดี ป้องกันแมลงและรอยขีดข่วนได้ และรองเท้าเดินป่าที่ยึดเกาะพื้นได้ดี ช่วยลดการลื่นล้มบนเส้นทางชัน รวมถึงสเปรย์กันแมลงหรือยากันยุง ที่ช่วยป้องกันแมลงกัดต่อยได้ดี นอกจากนี้ควรมีขวดน้ำหรือกระบอกน้ำแบบพกพา ป้องกันภาวะขาดน้ำ และถ้าใครต้องเดินระยะไกลหลายชั่วโมงหรือค้างคืน ควรพกทิชชู่เปียกที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่น ทำความสะอาดตัวได้ ซึ่งไอเท็มเหล่าคือสิ่งที่สายลุยขาดไม่ได้ สำหรับช่วยให้ทริปเดินป่าราบรื่น ปลอดภัย และสนุกแบบไม่ต้องกลัวแดดหรือแมลงมากวนใจ

ทริคการเลือกกันแดดเดินป่าและไปอุทยานเดินเขา
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอันดับแรก ๆ สำหรับการเลือกครีมกันแดดเดินป่า คือ ดูที่ค่า SPF และ PA โดยควรเลือกสูตรที่มี SPF 50+ PA++++ เพื่อป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ที่ทำให้ผิวหมองคล้ำและมีริ้วรอย รวมทั้งต้องกันน้ำและกันเหงื่อได้ เพราะระหว่างเดินป่าเหงื่อจะออกตลอดเวลา ถ้าใช้ครีมกันแดดทั่วไปที่ไม่กันน้ำก็จะหลุดง่ายเวลาเหงื่อออก ผิวไม่ได้รับการปกป้องเท่าที่ควร และที่สำคัญเลยก็คือควรเลือกสูตรที่มีเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ เพื่อไม่ให้รู้สึกไม่สบายผิวเวลาขยับตัวหรือสวมเสื้อผ้าหลายชั้น
อีกเรื่องสำคัญที่หลายคนอาจยังไม่รู้คือ ส่วนผสมในกันแดดควรปลอดสารต้องห้ามตาม พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ 2562 โดยเฉพาะหากจะไปเดินป่าในเขตอุทยานหรือพื้นที่ใกล้ชายฝั่ง เพราะประเทศไทยมีกฎหมายควบคุมสารที่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศทางทะเล เช่น Oxybenzone, Octinoxate, 4-Methylbenzylid Camphor และ Butylparaben ซึ่งเป็นสารที่สามารถทำร้ายปะการัง สิ่งมีชีวิตในทะเล และระบบนิเวศได้ ดังนั้นหากจะไปเดินป่า ขึ้นเขา ในเขตอุทยาน ก็ควรเลือกสูตรที่เป็น Reef-Safe หรือปลอดภัยต่อธรรมชาติ จะได้เที่ยวอย่างสบายใจโดยไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมด้วย
สุดท้าย สิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ สารบำรุงในครีมกันแดด อย่างว่านหางจระเข้หรือวิตามิน E เพราะหลังโดนแดดจัด ๆ ผิวมักจะแห้งและระคายเคืองง่าย หรือในบางคนอาจผิวไหม้ กันแดดที่มีสารบำรุงดังกล่าวจะช่วยฟื้นฟูและปลอบประโลมผิว ทำให้ผิวกลับมาชุ่มชื้นได้ แม้จะฝ่าแดดเดินป่ามาหลายวันก็ตาม

ครีมกันแดดกันน้ำ VS ครีมกันแดดทั่วไป ควรใช้แบบไหน
สำหรับการเดินป่า มีเงื่อนไขหลายอย่างที่แตกต่างจากชีวิตประจำวัน เช่น เหงื่อออกมาก อากาศผันผวน การเสียดสีจากเสื้อผ้า หรือโดนฝนตามสภาพอากาศ ถ้าเราใช้ครีมกันแดดทั่วไป แม้จะมี SPF หรือ PA สูง แต่พอเจอเหงื่อหรือน้ำจนตัวเปียกก็หลุดง่าย ทำให้ผิวถูกแดดทำร้าย เพราะฉะนั้นการใช้ครีมกันแดดกันน้ำและกันเหงื่อจะช่วยให้เนื้อครีมเกาะผิวเราได้นานขึ้น ไม่หลุดง่าย ยิ่งในกิจกรรมที่เดินนาน ๆ อย่างเดินป่าหรือขึ้นเขา ระหว่างทางอากาศเปลี่ยน อุณหภูมิสูง ชื้น ตัวเปียกชุ่ม การเลือกสูตรที่ทนเหงื่อและน้ำจึงสำคัญมาก
นอกจากนี้ครีมกันแดดเดินป่าควรมีเนื้อบางเบา เกาะผิวแน่น เพื่อไม่ให้รู้สึกหนักหน้า เลอะเสื้อผ้าและเป้ที่เราสะพาย หรือไหลเข้าตา เวลาที่เหงื่อออกมาก รวมทั้งควรเลือกที่มีสารบำรุง เช่น สารสกัดจากว่านหางจระเข้ หรือวิตามิน E หรือสารสกัดที่ช่วยให้ผิวยังคงความชุ่มชื้น พร้อมฟื้นบำรุงหลังออกแดดเป็นเวลานานได้ด้วย ส่วนกันแดดธรรมดาเหมาะกับวันปกติทั่วไปที่โดนแดดบ้าง วันที่ต้องเข้าออฟฟิศ ออกกลางแจ้งเล็กน้อย หรือไลฟ์สไตล์ของคนที่มีกิจกรรมเบา ๆ ไม่โดนแดดจัด หรือไม่ได้ออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมากนัก
แนะนำกันแดดสำหรับเดินป่า เล่นกีฬา ซัพพอร์ตทุก Activity จาก PO CARE
แน่นอนว่า ไม่ใช่กันแดดทุกตัวที่จะมีคุณสมบัติตอบโจทย์สายเดินป่า พร้อมลุยทุกกิจกรรมกลางแจ้งสุดโหด PO CARE จึงได้พัฒนาสูตรเฉพาะที่ปกป้องผิวได้ แม้เจอแดดหลายชั่วโมง หรือเหงื่อออกเยอะ เรามาดูตัวเลือกที่น่าสนใจกันว่ามีอะไรบ้างที่เหมาะจะเป็นไอเท็มพกไปเดินป่า ขึ้นเขา และบรรดากิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลาย รวมทั้งเป็นมิตรกับผิวและเป็นมิตรกับป่า ให้คุณทำกิจกรรมได้อย่างไรกังวล
POCARE ALOE ADVANCE MOISTURIZING MINERAL SUNSCREEN SPF50+ PA++++

ครีมกันแดดเนื้อโลชั่นที่ใช้ได้ทั้งหน้าและตัว เนื้อครีมซึมซาบเร็ว แห้งไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ขาว ไม่วอก และหน้าไม่ลอย อ่อนโยนต่อผิวแต่ปกป้องแบบจัดเต็มจากรังสี UVA1, UVA2, UVB ด้วยค่า SPF50+ PA++++ รวมทั้งยังกันน้ำและเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยนวัตกรรม Hydro active ที่ทำให้ยิ่งเปียกยิ่งปกป้อง เหมาะกับผู้ที่ต้องการการปกป้องนาน ๆ ในทุกเส้นทางเดินป่า รวมทั้งมีสารสกัดจากธรรมชาติ อย่างว่านหางจระเข้ ต้นอ่อนทานตะวัน อะโวคาโดออยล์ และวิตามินอี ที่ช่วยให้ผิวยังคงชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากมลภาวะได้ ลดอุณหภูมิผิว รวมทั้งปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ปะการัง และระบบนิเวศ อย่างถูกต้องตามกฎของอุทยานแห่งชาติด้วย
POCARE ALOE SUN SPRAY SPF50+ PA++++

กันแดดแบบสเปรย์เนื้อบางเบา ใช้งานและพกพาง่าย เหมาะสำหรับพกพาไปเดินป่า เพื่อเติมการปกป้องได้ตลอดวัน โดยสามารถฉีดเติมได้ทุก ๆ 2 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหรือผิวกายก็ใช้ได้ ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบเร็ว แห้งไว สบายผิว กันน้ำ กันเหงื่อได้ ปกป้องได้เต็มที่ ทั้งจากรังสี UVA1, UVA2 และ UVB ด้วยค่า SPF50+ PA++++ รวมทั้งยังปลอดสารต้องห้ามตามกฎหมายอุทยาน ให้คุณโฟกัสความสนุกระหว่างเดินป่าได้อย่างเต็มที่ตลอดเส้นทาง อย่างไร้กังวลเรื่องผิวเสีย และไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

การไปเดินป่าหรือเที่ยวอุทยาน ไม่ได้มีแค่การเตรียมรองเท้าดี ๆ เต็นท์คุณภาพ หรือเตรียมพร้อมกายใจเท่านั้น แต่ไอเท็มสำคัญที่ต้องมีเลยก็คือ กันแดดเดินป่า ที่จะช่วยให้ทริปของเราสนุกได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผิวเสีย การเลือกครีมกันแดดเดินป่าที่มีค่า SPF และ PA สูง รวมทั้งยังต้องกันน้ำ และกันเหงื่ออย่างเต็มประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรใส่ใจ เพราะจะช่วยให้ผิวได้รับการปกป้องตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมเดินเขา ขึ้นยอดดอย หรือเดินป่าระยะยาวหลายวันติดต่อกัน ยิ่งถ้าเลือกสูตรที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ และปลอดสารต้องห้ามตาม พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ 2562 ก็จะช่วยให้เส้นทางของเราเที่ยวได้อย่างสบายใจ ไม่ว่าจะเจอแดดจ้า อากาศร้อน หรือฝนตก PO CARE ก็พร้อมลุยไปกับคุณทุกเส้นทาง แถมยังไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
Let The Light Shine On You




ความคิดเห็น